August 28, 2024
27 Views
 
เมื่อช่วงปลายฝนต้นหนาวกำลังกลับมาอีกครั้ง ก็ต้องมีทะเลหมอกหลังฝนตกที่มาพร้อมกับบรรยากาศฉ่ำเย็น การได้ออกไปพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติเขียวชอุ่ม เป็นทางเลือกที่ช่วยฮีลใจได้ไม่น้อย #Waycationพาเที่ยว ชวนไปเช็คอิน 5 พิกัดจุดชมวิวทะเลหมอก ยลทะเลหมอกที่ปกคลุมขุนเขา โอบล้อมด้วยผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ รับรองว่าตื่นมาสดชื่นแน่นอน จะมีที่ไหนสวยงามน่าไปเที่ยวบ้าง เตรียมลิสต์รายชื่อพร้อมกันได้เลยยย

5 จุดชมวิวทะเลหมอก ตะลุยเที่ยวหน้าฝน รับความสดชื่นกลางป่าเขา

 

1. ภูลังกา – พะเยา
“ดื่มด่ำกับธรรมชาติ มองวิวทิวเขาที่สลับซับซ้อน จุดชมทะเลหมอกที่ดีต่อใจ”

    ภูลังกา มีลักษณะเป็นเทือกเขาสลับทับซ้อนกันอยู่ในวนอุทยานภูลังกา ด้วยความสูงที่มากถึง 1,720 เมตร จึงกลายเป็นอีกหนึ่งยอดดอยที่หลายคนอยากมาพิชิตสักครั้งในชีวิต ระหว่างเส้นทางจะได้พบกับสวนสมุนไพร สวนกล้วยไม้ หรือแม้แต่พืชหายากก็มีให้ชมเพียบ นอกจากนี้ยังมีนกหลากหลายชนิด เหมาะกับการเดินท่องธรรมชาติ ยิ่งเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาวก็จะได้ชมทุ่งดอกโคลงเคลงที่กำลังเบ่งบาน ที่สำคัญยังเป็นจุดชมวิวทะเลหมอกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง ไม่ควรพลาด!

ที่อยู่ : วนอุทยานภูลังกา ตำบลผาช้างน้อย อำเภอปง จังหวัดพะเยา
 



2. ฆูนุงซีลีปัต – ยะลา
“ตามรอยเที่ยวดินแดนขุนเขาที่โอบล้อมด้วยสายหมอกในบรรยากาศฝนพร่ำ”
 

  จุดชมวิวทะเลหมอกที่สามารถไปเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี แน่นอนว่าช่วงที่เห็นสายหมอกได้บ่อยและสวยงามที่สุดเป็นช่วงหน้าฝน แม้จะต้องใช้กำลังขาและแรงใจในการเดินขึ้นไปบนยอดเขาที่มีความลาดชันผ่านระยะทาง 500 เมตร แต่สิ่งที่รอให้คุณค้นพบอยู่ตรงปลายทางนั้นคุ้มค่ากับการเดินทางอย่างแน่นอน ดังนั้นหากจะไปเช็คอินเที่ยวแบบสายลุย อย่าลืมเตรียมร่างกายให้พร้อมกันก่อน

ที่อยู่ : ตำบลอัยเยอร์เวง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา
 



3. ภูห้วยอีสัน – หนองคาย
“สัมผัสบรรยากาศดีต่อใจ กับ Unseen ของหนองคาย ชมวิวทะเลหมอกสุดฟิน”

    เรียกได้ว่าเป็นจุดชมวิวทะเลหมอกที่สร้างความประทับใจให้กับผู้มาเยือน เพราะทิวทัศน์ที่จะได้เห็นจากมุมนี้ ถือว่าเป็น Unseen ของจังหวัดหนองคายที่มีชื่อเสียงมาก โดดเด่นในเรื่องความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ บนพื้นที่สีเขียวนี้ ไม่เพียงแต่จะมองเห็นสายหมอกคลอเคลียไปกับผืนป่า แต่ยังชมวิวแม่น้ำโขงที่ไหลตามทิวเขาได้แบบพาโนราม่า 360 องศา และเมื่อรอจนพระอาทิตย์โผล่มาทักทายก็จะได้เห็นความสวยงามอีกแบบที่น่าประทับใจ หากไม่ได้ไปสัมผัสสักครั้ง ก็คงจะน่าเสียดาย

ที่อยู่ : ตำบลบ้านม่วง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย
 


4. ดอยช้าง – เชียงราย
“จิบกาแฟชิล ๆ สัมผัสความงามของขุนเขาและทะเลหมอกในหน้าฝนบนดอยยอดฮิต”
 

   จุดชมวิวทะเลหมอกที่ไม่ได้มีดีแค่เป็นจุดชมวิวธรรมชาติสวย ๆ เท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจที่เหมาะจะมาเช็คอินในวันหยุดสุดชิลมาก ๆ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของสายกิจกรรม มีทั้งถนนลอยฟ้า ฟาร์มแกะ ร้านอาหารและคาเฟ่เพียบ นั่งจิบกาแฟไปพร้อมกับชมทิวทัศน์ตรงหน้า เป็นอะไรที่ฟินสุด ๆ แนะนำให้มาเที่ยวในช่วงปลายฝนต้นหนาว จะได้เห็นทะเลหมอกสีขาวผืนกว้างที่ห่อหุ้มภูเขาสีเขียวไว้แทบทุกวัน

ที่อยู่ : อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงใหม่



5. ดินแดงดอย – กระบี่
“พิชิตจุดชมวิวที่กำลังมาแรงของจังหวัดกระบี่ เพลิดเพลินไปกับหมอกจาง ๆ กลางทะเลใส”
 



   ใครว่าเดินทางไปเที่ยวภาคใต้ของไทยแล้วจะไม่มีทะเลหมอกให้ได้ชม เพราะที่กระบี่มีความพิเศษของจุดชมวิวทะเลหมอกที่มองเห็นวิวภูเขาได้แบบ 360 องศา ไฮไลต์อยู่ที่กลุ่มหมอกจาง ๆ ในยามเช้าที่ลอยอยู่เหนือทะเล เป็นภาพหาชมยาก แต่สวยงามจับใจ แถมยังมีที่พักเปิดให้บริการในรูปแบบลานกางเต็นท์ รอต้อนรับนักท่องเที่ยวที่อยากมาชมความงามของธรรมชาติก่อนใคร เริ่มต้นวันแบบสดใส ช่วยเติมเต็มความสุขได้ดีจริง ๆ 

ที่อยู่ : ตำบลหนองทะเล อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่


และนี่ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของจุดชมวิวทะเลหมอกในไทยที่เหมาะจะไปเที่ยวในช่วงหน้าฝน ยังมีอีกหลายแห่งที่รอให้นักเดินทางไปชมความงามตามฤดูกาลด้วยตัวเอง แต่ละที่ก็มีเสน่ห์ที่แตกต่างกันออกไป หากยังเลือกไม่ได้ว่าจะไปที่ไหนดี ลองเข้ามาตามพิกัดที่เรานำมาฝากกันได้ สำหรับบทความถัดไป Waycation จะพาไปสัมผัสความงามของธรรมชาติในช่วงฤดูกาลไหนอีก รอติดตามไปพร้อมกับเราได้เลย

Waycation ให้เรื่องเที่ยวเป็น’เรื่องง่ายๆ’

ที่พัก สไตล์บูทีค พรีเมี่ยม พัทยา เขาใหญ่ หัวหิน ฯลฯ พร้อมสิทธิ์เอ็กซ์คลูซีฟสําหรับคนชอบเที่ยวแบบครบๆ คุ้มๆ 
 

ช่วงปลายฝนต้นหนาวกำลังกลับมาอีกครั้ง ก็ต้องมีทะเลหมอกหลังฝนตกที่มาพร้อมกับบรรยากาศฉ่ำเย็น การได้ออกไปพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติเขียวชอุ่ม เป็นทางเลือกที่ช่วยฮีลใจได้ไม่น้อย #Waycationพาเที่ยว ชวนไปเช็คอิน 5 พิกัดจุดชมวิวทะเลหมอก ยลทะเลหมอกที่ปกคลุมขุนเขา โอบล้อมด้วยผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ รับรองว่าตื่นมาสดชื่นแน่นอน จะมีที่ไหนสวยงามน่าไปเที่ยวบ้าง เตรียมลิสต์รายชื่อพร้อมกันได้เลยยย

5 จุดชมวิวทะเลหมอก ตะลุยเที่ยวหน้าฝน รับความสดชื่นกลางป่าเขา

 

1. ภูลังกา – พะเยา
“ดื่มด่ำกับธรรมชาติ มองวิวทิวเขาที่สลับซับซ้อน จุดชมทะเลหมอกที่ดีต่อใจ”

 

    ภูลังกา มีลักษณะเป็นเทือกเขาสลับทับซ้อนกันอยู่ในวนอุทยานภูลังกา ด้วยความสูงที่มากถึง 1,720 เมตร จึงกลายเป็นอีกหนึ่งยอดดอยที่หลายคนอยากมาพิชิตสักครั้งในชีวิต ระหว่างเส้นทางจะได้พบกับสวนสมุนไพร สวนกล้วยไม้ หรือแม้แต่พืชหายากก็มีให้ชมเพียบ นอกจากนี้ยังมีนกหลากหลายชนิด เหมาะกับการเดินท่องธรรมชาติ ยิ่งเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาวก็จะได้ชมทุ่งดอกโคลงเคลงที่กำลังเบ่งบาน ที่สำคัญยังเป็นจุดชมวิวทะเลหมอกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง ไม่ควรพลาด!

ที่อยู่ : วนอุทยานภูลังกา ตำบลผาช้างน้อย อำเภอปง จังหวัดพะเยา
 



2. ฆูนุงซีลีปัต – ยะลา

“ตามรอยเที่ยวดินแดนขุนเขาที่โอบล้อมด้วยสายหมอกในบรรยากาศฝนพร่ำ”

 

  จุดชมวิวทะเลหมอกที่สามารถไปเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี แน่นอนว่าช่วงที่เห็นสายหมอกได้บ่อยและสวยงามที่สุดเป็นช่วงหน้าฝน แม้จะต้องใช้กำลังขาและแรงใจในการเดินขึ้นไปบนยอดเขาที่มีความลาดชันผ่านระยะทาง 500 เมตร แต่สิ่งที่รอให้คุณค้นพบอยู่ตรงปลายทางนั้นคุ้มค่ากับการเดินทางอย่างแน่นอน ดังนั้นหากจะไปเช็คอินเที่ยวแบบสายลุย อย่าลืมเตรียมร่างกายให้พร้อมกันก่อน

ที่อยู่ : ตำบลอัยเยอร์เวง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา
 



3. ภูห้วยอีสัน – หนองคาย
“สัมผัสบรรยากาศดีต่อใจ กับ Unseen ของหนองคาย ชมวิวทะเลหมอกสุดฟิน”

 

    เรียกได้ว่าเป็นจุดชมวิวทะเลหมอกที่สร้างความประทับใจให้กับผู้มาเยือน เพราะทิวทัศน์ที่จะได้เห็นจากมุมนี้ ถือว่าเป็น Unseen ของจังหวัดหนองคายที่มีชื่อเสียงมาก โดดเด่นในเรื่องความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ บนพื้นที่สีเขียวนี้ ไม่เพียงแต่จะมองเห็นสายหมอกคลอเคลียไปกับผืนป่า แต่ยังชมวิวแม่น้ำโขงที่ไหลตามทิวเขาได้แบบพาโนราม่า 360 องศา และเมื่อรอจนพระอาทิตย์โผล่มาทักทายก็จะได้เห็นความสวยงามอีกแบบที่น่าประทับใจ หากไม่ได้ไปสัมผัสสักครั้ง ก็คงจะน่าเสียดาย

ที่อยู่ : ตำบลบ้านม่วง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย
 


4. ดอยช้าง – เชียงราย

“จิบกาแฟชิล ๆ สัมผัสความงามของขุนเขาและทะเลหมอกในหน้าฝนบนดอยยอดฮิต”

 

   จุดชมวิวทะเลหมอกที่ไม่ได้มีดีแค่เป็นจุดชมวิวธรรมชาติสวย ๆ เท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจที่เหมาะจะมาเช็คอินในวันหยุดสุดชิลมาก ๆ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของสายกิจกรรม มีทั้งถนนลอยฟ้า ฟาร์มแกะ ร้านอาหารและคาเฟ่เพียบ นั่งจิบกาแฟไปพร้อมกับชมทิวทัศน์ตรงหน้า เป็นอะไรที่ฟินสุด ๆ แนะนำให้มาเที่ยวในช่วงปลายฝนต้นหนาว จะได้เห็นทะเลหมอกสีขาวผืนกว้างที่ห่อหุ้มภูเขาสีเขียวไว้แทบทุกวัน

ที่อยู่ : อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงใหม่



5. ดินแดงดอย – กระบี่

“พิชิตจุดชมวิวที่กำลังมาแรงของจังหวัดกระบี่ เพลิดเพลินไปกับหมอกจาง ๆ กลางทะเลใส”


   ใครว่าเดินทางไปเที่ยวภาคใต้ของไทยแล้วจะไม่มีทะเลหมอกให้ได้ชม เพราะที่กระบี่มีความพิเศษของจุดชมวิวทะเลหมอกที่มองเห็นวิวภูเขาได้แบบ 360 องศา ไฮไลต์อยู่ที่กลุ่มหมอกจาง ๆ ในยามเช้าที่ลอยอยู่เหนือทะเล เป็นภาพหาชมยาก แต่สวยงามจับใจ แถมยังมีที่พักเปิดให้บริการในรูปแบบลานกางเต็นท์ รอต้อนรับนักท่องเที่ยวที่อยากมาชมความงามของธรรมชาติก่อนใคร เริ่มต้นวันแบบสดใส ช่วยเติมเต็มความสุขได้ดีจริง ๆ 

ที่อยู่ : ตำบลหนองทะเล อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่


และนี่ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของจุดชมวิวทะเลหมอกในไทยที่เหมาะจะไปเที่ยวในช่วงหน้าฝน ยังมีอีกหลายแห่งที่รอให้นักเดินทางไปชมความงามตามฤดูกาลด้วยตัวเอง แต่ละที่ก็มีเสน่ห์ที่แตกต่างกันออกไป หากยังเลือกไม่ได้ว่าจะไปที่ไหนดี ลองเข้ามาตามพิกัดที่เรานำมาฝากกันได้ สำหรับบทความถัดไป Waycation จะพาไปสัมผัสความงามของธรรมชาติในช่วงฤดูกาลไหนอีก รอติดตามไปพร้อมกับเราได้เลย

Waycation ให้เรื่องเที่ยวเป็น’เรื่องง่ายๆ’

ที่พัก สไตล์บูทีค พรีเมี่ยม พัทยา เขาใหญ่ หัวหิน ฯลฯ พร้อมสิทธิ์เอ็กซ์คลูซีฟสําหรับคนชอบเที่ยวแบบครบๆ คุ้มๆ